เรื่อง
ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการรายงานการใช้ไฟฟ้า ประปา และน้ำมัน
เรียน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
๒. หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร.๐๕๐๔/ว ๑๒๗
ลงวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๔๗
๓. หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่
นร.๐๕๐๔/ว ๑๗๘ ลงวันที่ ๓ กันยายน
๒๕๔๗
ตามที่ได้ยืนยันมติคณะรัฐมนตรี (๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๕) เรื่อง
การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (มาตรการจูงใจในการประหยัด)
มติคณะรัฐมนตรี (๘ มิถุนายน ๒๕๔๗) เรื่อง การรณรงค์มาตรการประหยัดพลังงาน
และมติคณะรัฐมนตรี (๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๗) เรื่อง
มาตรการประหยัดพลังงานในภาวะราคาน้ำมันแพง
และเรื่องสรุปผลการหารือมาตรการประหยัดพลังงานในส่วนที่เกี่ยวกับเวลาปิดห้างสรรพสินค้าซุปเปอร์สโตร์
และดิสเคานท์สโตร์ มาเพื่อทราบความละเอียดแจ้งแล้วนั้น
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๖ พฤศิจกายน ๒๕๔๕ ซึ่งเห็นรูปแบบ
และแนวทางการรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
(มาตรการจูงใจในการประหยัด) ที่ปรับปรุงใหม่
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยได้กำหนดให้กระทรวง กรม
หน่วยงานอิสระ
และองค์การมหาชนรวบรวมรายงานการใช้ไฟฟ้าและประปาของหน่วยงานส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่กำหนด
เพื่อที่จะได้รวบรวมนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๗
ซึ่งกำหนดให้กระทรวงรายงานการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันให้กระทรวงพลังงานทราบเป็นประจำทุกไตรมาส
โดยให้ใช้รูปแบบรายงานเช่นเดียวกับการรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
(มาตรการจูงใจในการประหยัดพลังงาน) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖
พฤศจิกายน ๒๕๔๕
และให้กระทรวงพลังงานสรุปข้อมูลทั้งหมดเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไปนั้น
นอกจากจะมีความซ้ำซ้อนในเรื่องของการรายงานการใช้ไฟฟ้าอันเป็นการสร้างภาระให้แก่หน่วยงานของรัฐที่จะต้องรายงานผลการใช้ไฟฟ้าส่งให้ทั้งกระทรวงพลังงานและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตีแล้ว
การที่มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวกำหนดให้ต้องนำข้อมูลการใช้ไฟฟ้า
น้ำประปาและน้ำมัน เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
และรวมทั้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๗
ซึ่งกำหนดให้กระทรวงพลังงานติดตามประเมินผลลดการใช้ไฟฟ้าของแต่ละห้างร้านในแต่ละเดือน
เพื่อรายงานคณะรัฐมนตรีทราบอย่างต่อเนื่องด้วยนั้น
ยังเป็นการเพิ่มภาระแก่คณะรัฐมนตรีอีกด้วย ดังนั้น
เพื่อเป็นการลดเรื่องที่จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อลดภาระของคณะรัฐมนตรีในเรื่องที่ไม่จำเป็น
และเพื่อให้มีการดำเนินการประหยัดพลังงานอย่างจริงจังและต่อเนื่องตลอดไป
จึงเห็นควรนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ ดังนี้
๑. ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖
พฤศจิกายน ๒๕๔๕ เรื่อง การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
(มาตรการจูงใจในการประหยัด) เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับรูปแบบ
และแนวทางการรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
(มาตรการจูงใจในการประหยัด)
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
๒. ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๗ เรื่อง
การรณรงค์มาตรการประหยัดพลังงาน ข้อ ๕ จาก
“ให้กระทรวงรายงานข้อมูลการใช้ไฟฟ้าและน้ำมัน
ให้กระทรวงพลังงานทราบเป็นประจำทุกไตรมาส
โดยให้ใช้รูปแบบรายงานเช่นเดียวกับรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
(มาตรการจูงใจในการประหยัด) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน
๒๕๔๕
และให้กระทรวงพลังงานสรุปข้อมูลทั้งหมดของทุกส่วนราชการเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป”
เป็น “ให้กระทรวง กรม
และหน่วยงานอื่นของรัฐรายงานข้อมูลการใช้ไฟฟ้าและน้ำมัน
ให้กระทรวงพลังงานทราบ โดยในส่วนของรูปแบบการรายงานการใช้ไฟฟ้าและน้ำมัน
และระยะเวลาที่จะต้องรายงานมอบให้กระทรวงพลังงานไปพิจารณาและแจ้งเวียนให้กระทรวง
กรม และหน่วยงานอื่นของรัฐทราบและถือปฏิบัติต่อไป
และให้กระทรวงพลังงานนำข้อมูลการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันที่กระทรวง กรม
และหน่วยงานอื่นของรัฐรายงานมาวิเคราะห์ประเมินผล
และหากมีข้อเสนอแนะหรือแนวทางแก้ไขอย่างไรที่เกี่ยวกับมาตรการประหยัดพลังงานก็ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป”
๓. ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๗ เรื่อง
มาตรการประหยัดพลังงานในภาวะราคาน้ำมันแพงและเรื่องสรุปผลการหารือมาตรการประหยัดพลังงานในส่วนที่เกี่ยวกับเวลาปิดห้างสรรพสินค้า
ซุปเปอร์สโตร์ และดิสเคานท์สโตร์ ข้อ ๑ จาก
“และให้กระทรวงพลังงานติดตามประเมินผลลดการใช้ไฟฟ้าของแต่ละห้างร้านในแต่ละเดือนเพื่อรายงานคณะรัฐมนตรีทราบอย่างต่อเนื่องต่อไป”
เป็น
“และให้กระทรวงพลังงานติดตามประเมินผลลดการใช้ไฟฟ้าของแต่ละห้างร้านในแต่ละเดือนและหากมีข้อเสนอแนะหรือแนวทางแก้ไขอย่างไรที่เกี่ยวกับมาตรการประหยัดพลังงานก็ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป”
โดยที่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๗ และ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๗
เกี่ยวข้องกับกระทรวงพลังงาน จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาว่า
สมควรจะปรับปรุง แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว
ตามข้อเสนอของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหรือไม่ อย่างไร
และแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ ภายในวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๔๘
ด้วย จะขอบคุณยิ่ง