นโยบายเซฟพลังงาน จัดแผนร่วมใจ เดินไปปั่นไปกำไร 3
ต่อ
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ฉบับวันที่ 19 กรกฎาคม 2548
โดย : พีระ วีระชัย
ปัจจุบัน ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลก
นับวันจะมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประเทศไทยโดยพื้นฐานของประชากรส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพในด้านเกษตรกรรม
ซึ่งผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศ และส่วนหนึ่งก็ส่งออกไปยังต่างประเทศ
แต่สินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นประเภทเครื่องอำนวยความสะดวกด้านเทคโนโลยีที่มีราคาแพง
ส่วนสินค้าด้านการเกษตรของไทยกลับมีราคาตกต่ำ
ทำให้ผู้ประกอบอาชีพทางเกษตรกรรมมีรายได้น้อย
และมีหนี้สินอันเกิดจากการกู้ยืมมาใช้ในการลงทุน
เมื่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาแพง
ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะด้านเกษตรกรรม
ที่มีความจำเป็นต้องใช้เชื้อเพลิงตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการทำนา
ที่ต้องใช้รถไถ และแม้กระทั่งการขนส่งสินค้าการเกษตรออกสู่ตลาด
หรือการประมงที่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการออกเรือไปหาปลา
หากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นปัจจัยสำคัญสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งอยู่เช่นนี้
จะกระทบต่อการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น
จังหวัดอุดรธานี โดย นายจารึก ปริญญาพล ผวจ.อุดรธานี
ได้ขานรับนโยบายของรัฐบาล ในการประหยัดพลังงาน
จึงได้มีแนวความคิดเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกสาขาอาชีพ
ได้ตระหนักและเข้าใจกับสถานการณ์วิกฤติด้านพลังงานเชื้อเพลิง
จึงได้มีโครงการ เดินไป ปั่นไป กำไร 3 ต่อ ขึ้นคือ เดิน
ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทุกคนทำได้อยู่แล้ว จักรยาน
เป็นยานพาหนะที่มีมาตั้งแต่ในอดีตกาล
และใช้กันอย่างแพร่หลายแทบทุกครัวเรือน
ถ้าทุกครอบครัวหันมาใช้จักรยานสองล้อกันแล้ว จะเกิดผลดี 3 ประการ
ตามแนวความคิด หรือตามโครงการ เดินไป ปั่นไป กำไร 3 ต่อ คือ
ต่อที่ 1 ตนเองเป็นผู้ได้ กล่าวคือ ทำให้ได้รับผลดีในด้านสุขภาพ
จะได้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย นอกจากนี้
ยังทำให้เกิดการประหยัดไม่ต้องเสียเงินเติมน้ำมัน
และประเทศชาติไม่ต้องเสียเงินตราให้กับต่างประเทศ
ที่สำคัญทำให้มีเงินเก็บไว้ใช้สอยในสิ่งอื่น ๆ และไม่เสียดุลการค้าด้วย
ต่อที่ 2 ประเทศชาติเป็นผู้ได้ กล่าวคือ
ทำให้ไม่ต้องเสียเงินตราในการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง และ ต่อที่ 3
โลกเป็นผู้ได้ คือทั้งการเดินและการปั่นจักรยานสองล้อ
ไม่มีการใช้พลังงานเชื้อเพลิงแต่อย่างใด
ทำให้ไม่มีก๊าซพิษที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง มลพิษของโลกก็ดีขึ้น
นายจารึก กล่าวว่า แนวทางการ
แก้ไขปัญหาเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นแบ่งออกเป็น 3
ระดับ คือ ในส่วนของครอบครัวย่อมได้รับ ผลกระทบ
เพราะส่วนมากแต่ละครัวเรือนจะมี
รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ไว้ใช้ เมื่อราคาน้ำมัน
สูงขึ้นอยู่ตลอดเวลาจะกระทบต่อรายจ่ายทันที แต่เมื่อรายรับยังคงที่
ทางแก้ไขคือการรณรงค์ในการ เดินทาง
หากระยะทางในการไปทำงานหรือไปทำธุระอยู่ไม่ไกลเกินไป ควรเดินทางด้วยเท้า
หรือใช้ รถจักรยานสองล้อแทน และถ้าจำเป็นจริง ๆ
ก็ให้วางแผนเส้นทางในการเดินทาง หรือใช้รถโดยสารประจำทางแทน