'ฮุนเซน' สั่งภาครัฐลดใช้น้ำมันลง 10% บอกจำเป็น
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ 5 กันยายน 2548
ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในกัมพูชากำลังถีบตัวสูงขึ้น
รัฐบาลจึงหันมาใช้นโยบายประหยัดพลังงานลง 10%
เอเคพี- นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน แห่งกัมพูชา ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (1
ก.ย.)
ที่ผ่านมาว่าทางรัฐบาลจะลดการจ่ายน้ำมันปันส่วนให้กับกระทรวงทบวงกรมต่างๆ
ลง 10% เพื่อสนับสนุนนโยบายการประหยัดพลังงาน ขณะเดียวกันกับที่นายเกียตชน
(Keat Chhon)
รมว.กระทรวงการคลังได้ออกโรงปกป้องภาษีพลังงานของรัฐบาลที่เพิ่งจะผ่านการพิจารณาของรัฐสภา
ผมต้องการประกาศให้ทราบงว่า หน่วยงานต่างๆ
ของรัฐได้รับคำสั่งให้ต้องลดทอนการใช้น้ำมันลง 10%
เพื่อนำเอาส่วนนั้นไปใช้เป็นพลังงานให้กับเครื่องสูบน้ำของเกษตรกร
นายฮุนเซน กล่าวในพิธีปลูกป่าที่ จ.สวายเรียง
นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้กล่าวโทษปัญหานี้ไปที่ปั๊มจำหน่ายน้ำมันทั่วประเทศ
ซึ่งในปัจจุบันราคาน้ำมันในกรุงพนมเปญพุ่งขึ้นถึงลิตรละ 0.86 ดอลลาร์สหรัฐ
ในขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็ทะยานสูงเฉียด 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว
แม้ในสหรัฐฯ ก็ไม่อาจจะหยุดยั้งมันได้ ฝรั่งเศสก็หยุดไม่ได้
ญี่ปุ่นก็หยุดไม่ได้
ทั้งหมดต้องซื้อน้ำมันมาจากตลาดในนครนิวยอร์กด้วยราคาเดียวกัน
ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดก็คือการลดการเดินทาง...
อย่างในประเทศไทยก็ได้สั่งให้สถานีบริการจำหน่ายน้ำมันต้องปิดตอน 4 ทุ่ม
นายฮุน เซน กล่าว
นอกจากนี้ นายเกียต ชน (Keat Chhon) รมว.กระทรวงการคลัง
ยังได้กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาด้วยว่า
ภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงได้มีการเก็บแบบจำกัดจำนวนแบบต่อตัน
ทำให้รัฐบาลต้องให้การอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเงียบๆ
มาตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ปี 2548 เป็นต้นมา
ในขณะนี้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงระหว่างประเทศสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 650
ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่รัฐบาลยังคงเก็บภาษี 309
ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเท่ากับเมื่อเดือน ม.ค. ซึ่งราคาน้ำมันโลกยังอยู่ที่
330 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเท่านั้น
เราค่อยๆ ให้การอุดหนุนมาเป็นระยะๆ โดยในเดือน ส.ค.
ที่ผ่านมาเราต้องให้การอุดหนุนเงินรวมเป็นจำนวนกว่า 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพราะในขณะที่ราคาน้ำมันดิบได้เพิ่มขึ้น 50%
แต่ราคาที่จำหน่ายกันอยู่ตามสถานีให้บริการเพิ่มขึ้นเพียง 18% เท่านั้น"
นายเกียตชนกล่าว
รมว.กระทรวงการคลังกล่าวอีกว่า ในปี 2547
กัมพูชาซึ่งเป็นประเทศที่ต้องนำเข้าเชื้อเพลิงทั้งหมดนั้น
ได้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงถึง 632,000 ตัน และรัฐบาลมีรายได้จากส่วนนี้ 65
ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตามระหว่างเดือน ม.ค.-ส.ค.
ปีนี้กัมพูชาได้มีการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงไปแล้วกว่า 300,000 ตัน
ถ้าเรายังไม่เริ่มเพิ่มภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง
เราอาจต้องสูญเสียเงินมูลค่ากว่า 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปก็ได้
ซึ่งก็เท่ากับ 30% ของรายได้รวมของรัฐซึ่งได้จากภาษีอากร และ 2%
ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ รมว.กระทรวงการคลังกล่าว