"ทักษิณ"สั่งปรับปรุงโรงแยกก๊าซฯ
เพื่อให้ได้เอ็นจีวีมาใช้กับรถยนต์ได้โดยตรง



ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ 10 กันยายน 2548

นายกรัฐมนตรีขอบคุณประชาชนที่ร่วมมือลดใช้พลังงาน จนผลรณรงค์ประหยัดพลังงานรอบ 3 เดือน ออกมาอย่างน่าพอใจ พร้อมกำชับทุกหน่วยงานร่วมมือปรับโครงสร้างการใช้พลังงานของประเทศลดการใช้น้ำมัน หาพลังงานทดแทน โดยเฉพาะก๊าซฯ สั่งปรับปรุงโรงแยกฯ เพื่อให้ได้คุณภาพก๊าซฯ เหมาะกับรถยนต์โดยตรง ยอมรับโรงไฟฟ้าถ่านหินอาจเกิดขึ้น หากประชาชนให้การยอมรับ
      
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ นายกฯ ทักษิณ คุยกับประชาชน ว่า ได้หารือร่วมกับกระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือราคาน้ำมันแพงวานนี้ (9 ก.ย.) โดยเฉพาะน้ำมันแพงมาก เพราะว่ามีเหตุการณ์ที่สหรัฐอเมริกา และความต้องการน้ำมันในตลาดโลกสูง การเก็งกำไรก็มากขึ้น ประเทศเล็กๆ อย่างไทยและต้องนำเข้าน้ำมันเกือบทั้งหมด ก็เหนื่อยหน่อย ดังนั้น ต้องทำงานหามาตรการรองรับล่วงหน้า โดยสิ่งแรกที่มอบหมายในการประชุมรับมือราคาน้ำมัน คือ การปฏิรูปโครงสร้างการใช้พลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถยนต์ ในระบบขนส่ง และในอุตสาหกรรมบางประเภท เพื่อเป้าหมายลดการนำเข้าน้ำมัน จะส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติทดแทนน้ำมันมากขึ้น เพราะก๊าซธรรมชาติผลิตจากอ่าวไทยประมาณร้อยละ 80 และนำเข้าจากพม่าเพียงร้อยละ 20 จึงมอบหมายให้เร่งเรื่องก๊าซเอ็นจีวี ขณะนี้ทำไปบางส่วนแล้ว แต่ว่าจะยังไม่เร่งรัดดีพอ และให้ปรับปรุงเรื่องของโรงงานแยกก๊าซฯ เพื่อให้ก๊าซมีคุณภาพอย่างเต็มที่เพื่อให้ใช้ได้สำหรับรถยนต์โดยตรง และเร่งเรื่องถังก๊าซฯ เรื่องท่อส่งก๊าซฯ รวมทั้งเร่งเรื่องของการผลิตพลังงานชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นไบโอดีเซล แก๊สโซฮอล์ และพลังงานที่ได้จากขยะ
      
 “ได้สั่งการให้จัดทำแผนและรายละเอียดปรับโครงสร้างพลังงานอย่างละเอียด ซึ่งแผนก็จะประกอบด้วยเป้าหมาย เจ้าภาพ งบประมาณ ระยะเวลาแล้วเสร็จ คัดแยกเป็นรายการ ๆ เพื่อจะได้มีเจ้าภาพเอาไปทำ และก็เน้นเรื่องของการประหยัดพลังงาน และการทำเรื่องประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้เป็นรายส่วน รายอุตสาหกรรม รายรถยนต์ขนส่ง รายครัวเรือน รายธุรกิจ จะทำอย่างไร เขามีโครงมาคร่าวๆ แต่ผมขอรายละเอียดเพื่อจะแบ่งคนแบ่งงานไปทำ เพราะไม่เช่นนั้นเราประชุมกัน พูดไปพูดมางานจะเดินได้น้อย“ นายกรัฐมนตรี กล่าว
      
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องของการปลูกพืชที่สามารถนำมาทดแทนน้ำมันได้ ก็จะเร่งทำกันอย่างจริงจังเลย เพราะว่ายังมีพืชเกษตรหลายตัวที่ปลูกแล้วเกษตรกรขาดทุน แต่ขณะนี้ปลูกแล้วไม่ขาดทุน เช่น มันสำปะหลัง เวลานี้กิโลกรัมละ 1.70 บาท หาซื้อของไม่ได้ ทางการก็พยายามจะเร่งผลิตพันธุ์ แต่ว่าผลิตพันธุ์กันไม่ทัน เพราะว่ายอดมันฯ ขายดี และแก๊สโซฮอล์ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบได้ดี ด้านต่างประเทศก็กำลังต้องการมาก
      
ส่วนการประหยัดพลังงาน ทางทีมงานมีการเสนอมาตรการประหยัดพลังงานภาคบังคับมาเสนอ แต่เมื่อดูแล้วพบว่ายังไม่จำเป็น เพราะว่าผลการประหยัดพลังงานที่เกิดขึ้น 3 เดือน ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม หลังจากที่ได้ประกาศเชิญชวนประชาชนร่วมประหยัดแล้วพบว่าได้ผลจริงๆ ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชน เพราะสามารถใช้ไฟฟ้าลดลงได้ร้อยละ 8 เปรียบเทียบ 3 เดือนที่ผ่านมา ส่วนหน่วยราชการภาครัฐ กระทรวงรัฐวิสาหกิจหลายแห่งสามารถประหยัดพลังงานได้ดี โดยในส่วนการลดการใช้ไฟฟ้า ภาคราชการลดลงได้ 17.4 ล้านหน่วย โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงที่ต้องชื่นชม เพราะว่าลดลงได้ถึงร้อยละ 24 กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลังงาน ลดลงได้ถึงร้อยละ19 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลดได้ร้อยละ 18 ส่วนใหญ่จะลดลงอยู่ประมาณร้อยละ 10 ส่วนหน่วยราชการที่ยังลดได้น้อย คือ กทม. ลดได้ร้อยละ 2 มหาวิทยาลัยต่างๆ ลดได้ร้อยละ 2 กระทรวงยุติธรรมลดได้ร้อยละ 4 เพราะฉะนั้นก็ต้องมีการปรับลง ลดการประหยัดพลังงานลงไปอีก โดยเฉพาะการตั้งอุณหภูมิแอร์ไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส และถ้าเป็นไปได้ไม่อยู่ในห้องก็ปิดแอร์ดีกว่า
      
ส่วนการประหยัดไฟฟ้าในระดับจังหวัด พบว่าลพบุรีลดการใช้ไฟฟ้าได้มากที่สุดถึงร้อยละ 35 เพชรบูรณ์ลดได้ร้อยละ 21 อุทัยธานีลดได้ร้อยละ 17 จังหวัดที่ยังลดได้น้อย คือ นนทบุรี สมุทรปราการ ลดได้ร้อยละ 4 การใช้ไฟฟ้าในระดับจังหวัดลดลงถึง 11.8 ล้านหน่วย หรือลดลงร้อยละ 5 ก็คิดว่าคงต้องมอบรางวัลแก่ผู้ที่สามารถประหยัดพลังงาน เพื่อจะได้เป็นกำลังใจ ซึ่งต้องขอความร่วมมือประหยัดพลังงานกันต่อไป เพระจะช่วยทั้งตัวท่านเอง และช่วยทั้งชาติในการที่จะต้องเสียเงินตราต่างประเทศ การขาดดุลทั้งหลาย
      
 “ผมก็อยากจะเรียนพี่น้องประชาชนว่าที่บ้านนี่ ไฟฟ้าก็มีความหมายครับ ห้องไม่อยู่ก็ปิดไฟซะ บางทีมันดูมืดก็เปิดม่านซะ เพื่อใช้แสงอาทิตย์บ้างในเวลากลางวัน แอร์ไม่จำเป็นก็อย่าเปิด บางทีเราอยู่กับแอร์มากเกินไปก็ไม่ค่อยดี ถ้าหากว่าวันไหนไม่ร้อนมากก็เปิดหน้าต่าง เปิดอะไรรับลมบ้างก็จะเป็นประโยชน์ เรื่องรถยนต์ก็เหมือนกันนะครับ เราก็จะมีการกวดขันจับกุมการขับรถด้วยความเร็วสูง เพราะตามกฎหมายกำหนด ถ้าขับอยู่ประมาณ 90 กม.ต่อชั่วโมง เป็นการประหยัดพลังงาน พอเกิน 120 กม.ต่อชั่วโมง ไปนี่ เรียกว่าซดน้ำมันเลยนะครับ ซึ่งไม่ค่อยคุ้ม ส่วนเรื่องของการประหยัดพลังงานด้านอื่นๆ นั้นนี่ กำลังไปเตรียมการทำกันอย่างเต็มที่” นายกรัฐมนตรี กล่าว
      
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า รัฐบาลได้ปรับลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทเอทานอลเป็นส่วนผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 หากว่ารถประเภทนี้เข้ามาจะทำให้การใช้แก๊สโซฮอล์สูงขึ้น แต่ขณะเดียวกันแก๊สโซฮอล์ก็ต้องเร่งให้พร้อมกับความต้องการใช้ เพราะช่วงนี้ยังไม่ค่อยพร้อม ยังไม่มากพอเพียง เพราะฉะนั้นเมื่อปี 2552 เมื่อมีสถานีแก๊สโซฮอล์เต็มที่ ก็จะส่งเสริมให้รถยนต์ประเภทนี้เข้ามา โดยลดภาษีสรรพสามิตจากร้อยละ 40 เหลือร้อยละ 20 และกระทรวงพลังงานก็เสนอให้นำเข้าเอทานอลเพื่อนำมาผลิตแก๊สโซฮอล์เป็นการชั่วคราว ซึ่ง ครม.ตอนที่ประชุมที่พังงาก็ได้อนุมัติให้ ปตท.นำเข้าเอทานอล เฉพาะส่วนที่ขาดแคลนเป็นการชั่วคราว ในเดือนกันยายน-ธันวาคมนี้เท่านั้น เพราะกำลังเร่งให้โรงงานที่กำลังทำอยู่นี่ผลิตให้ทัน โดยยกเว้นภาษีสรรพสามิต และอากรนำเข้าสำหรับเอทานอลที่นำมาเพื่อใช้ผลิตแก๊สโซฮอล์ในประเทศ แล้วในอนาคตตั้งแต่เดือนมกราคม 2550 รัฐบาลจะยกเลิกเบนซิน 95 แต่จะใช้แก๊สโซฮอล์ 95 แทน เพราะขณะนี้ประชาชนก็มีความมั่นใจในการใช้แก๊สโซฮอล์ เวลานี้การเติบโตการใช้แก๊สโซฮอล์ขึ้นถึงร้อยละ 500 แล้ว
      
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ประธานบริษัทอิเล็กทริกพาวเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จากญี่ปุ่น หรือเจ พาวเวอร์ มาเข้าพบ และญี่ปุ่นมีการใช้ไฟฟ้าพลังน้ำกับพลังถ่านหิน ซึ่งในส่วนถ่านหินนั้น ที่ญี่ปุ่นนี่มีการดูแลเรื่องมลภาวะได้ดีมาก การใช้ถ่านหินของเขาไม่มีปัญหาเรื่องมลภาวะ และการใช้ไฟฟ้าของญี่ปุ่นนี่เขามีประสิทธิภาพสูงมาก คือเปรียบเทียบกับหลายประเทศ จึงขอให้ญี่ปุ่นมาลงทุนและแนะนำให้ประเทศไทยในเรื่องการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด โดยเฉพาะการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง เพราะต้องยอมรับว่าประชาชนมีความรู้สึกที่ไม่ดีในสิ่งที่เกิดขึ้นที่แม่เมาะ ทำให้ประชาชนคนไทยยังไม่ค่อยมั่นใจ เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าอีกสักพักหนึ่งถ้าเทคโนโลยีสูงขึ้น คนไทยอาจจะยอมรับก็ได้