คำกล่าวรายงาน

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล

ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน

งานสัมมนา “รวมพลังข้าราชการไทย ลดใช้พลังงาน ปี 2550”

ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2550

ณ โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ

เรียน ปลัดกระทรวงพลังงาน

รองปลัดกระทรวงพลังงาน

ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน

อธิบดี รองอธิบดี หัวหน้าส่วนราชการ เพื่อนข้าราชการ

สื่อมวลชน ผู้เข้าร่วมสัมมนา ทุกท่าน

รัฐบาลได้ประกาศให้การประหยัดพลังงานเป็นวาระแห่งชาติ โดยทุกหน่วยงานราชการต้องเป็นผู้นำในการลดใช้พลังงาน ทั้งด้านไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง และกำหนดเป้าหมายที่ระดับ ร้อยละ 10 เทียบกับปริมาณการใช้ในปี 2546 พร้อมทั้งให้ สำนักงาน ก.พ.ร. กำหนดเป็นตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานราชการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2549 เป็นต้นไป และมอบหมายรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี ในแต่ละกรมและกระทรวงเป็นผู้รับผิดชอบในการปฏิบัติให้การประหยัดพลังงานได้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้

กระทรวงพลังงาน ได้ติดตามการดำเนินงานลดใช้พลังงานในหน่วยงานราชการ ในช่วงปี 2549 โดยอำนวยความสะดวกในการรายงานด้วยระบบ Internet ผ่าน website www.e-report.energy.go.th พร้อมทั้งให้การบริการตอบข้อซักถามทางโทรศัพท์ และเห็นได้ว่า บุคลากรในหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ มีความเข้าใจในแนวทางประหยัดพลังงานและให้ความร่วมมือปฏิบัติอย่างจริงจังมากขึ้น

จากจำนวนหน่วยงานที่รายงานข้อมูลทั้งหมด 29,865 หน่วยงาน เมื่อนำมาเปรียบเทียบผลการใช้พลังงานกับปีงบประมาณ 2546 แล้ว สรุปได้ว่าหน่วยงานราชการได้ร่วมใจลดใช้พลังงานลง คิดเป็นเงินงบประมาณที่ประหยัดได้ถึง 1,335 ล้านบาท โดยมีหน่วยงานที่สามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดีเด่น ใน 3 ลำดับแรกของหน่วยงานระดับกระทรวง กรม และจังหวัด รวม 15 หน่วยงาน ได้เข้ารับโล่เชิดชูเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไปแล้วเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2550 ที่ผ่านมา โดยสามารถศึกษาแนวทางลดการใช้พลังงานของแต่ละหน่วยงานได้จากนิทรรศการที่นำมาจัดแสดงบริเวณด้านนอกของห้องสัมมนา

จากการติดตามผลการลดใช้พลังงานในหน่วยงานราชการ ตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปี 2549 พบว่าแต่ละหน่วยงานมีบทบาทและภารกิจต่างกันหลายประการ และมีการขยายตัวทุกปีทั้งในด้านของจำนวนบุคลากรและกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติ ซึ่งส่งผลโดยตรงถึงการใช้พลังงานโดยรวมของหน่วยงานเพิ่มขึ้น การกำหนดเป้าหมายให้ทุกหน่วยงานลดใช้พลังงานลงให้ได้ ร้อยละ 10 เทียบกับปริมาณการใช้ในปี 2546 จึงเป็นเกณฑ์ที่ไม่ยุติธรรม

กระทรวงพลังงาน และสำนักงาน ก.พ.ร. จึงได้นำเกณฑ์ใหม่ที่เป็น “ค่ามาตรฐานการจัดการใช้พลังงานในส่วนราชการ” มาใช้แทนวิธีการเดิม ซึ่งจะสอดคล้องกับลักษณะงานที่ส่วนราชการปฏิบัติ ซึ่งค่ามาตรฐานนี้หมายถึงการใช้พลังงานที่ควรจะเป็นของหน่วยงานที่กำหนดโดยคำนึงถึงปัจจัยหลักที่มีผลต่อการใช้พลังงานของแต่ละหน่วยงาน เช่น พื้นที่ จำนวนบุคลากร เวลาในการปฏิบัติงาน เป็นต้น ดังนั้นจึงสะท้อนถึงความต้องการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงที่แท้จริงในแต่ละหน่วยงาน

โดยคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550 ได้มีมติเห็นชอบในเรื่องนี้แล้ว โดยให้เริ่มใช้เกณฑ์ใหม่ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นไป สำหรับในปี 2550 นี้ ยังคงให้ใช้เกณฑ์เดิม ลดใช้พลังงานลงร้อยละ 10 เทียบกับปริมาณการใช้ในปี 2546 ไปก่อน และให้กระทรวงพลังงานเร่งทำเข้าใจกับหน่วยงานราชการเรื่องเกณฑ์ใหม่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการใช้งานต่อไป

นอกจากนี้คณะรัฐมนตรียังได้มีมติให้กระทรวงการคลังกำหนดให้ทุกส่วนราชการจัดซื้ออุปกรณ์และครุภัณฑ์โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงานระดับดีมาก (ฉลากเบอร์ 5) ตลอดจนจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีในส่วนค่าบำรุงดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศและรถยนต์ที่เป็นครุภัณฑ์ของส่วนราชการให้แต่ละส่วนราชการด้วย

วันนี้ จะเป็นก้าวเริ่มต้นของงานสัมมนา “รวมพลังข้าราชการไทย ลดใช้พลังงาน ประจำปี 2550” ที่กระทรวงพลังงานจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2543 และจะจัดสัมมนาในลักษณะเดียวกันนี้อีก 12 ครั้ง ทั่วประเทศ ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานพลังงานภูมิภาค กระทรวงพลังงาน โดยผู้เข้าร่วมงานสัมมนาจะเป็นผู้แทนคณะทำงานลดใช้พลังงานจากทุกส่วนราชการ ทั่วประเทศ มีความมุ่งหมายเพื่อ

· สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเกณฑ์ประเมินผลปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ 2550 ตามตัวชี้วัดด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

· ชี้แจงเรื่องเกณฑ์ประเมินผลแนวใหม่ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2550 ที่เห็นชอบให้ สำนักงาน ก.พ.ร. และ สนพ. นำ “ค่ามาตรฐานการจัดการใช้พลังงานในส่วนราชการ” มาใช้เป็นเกณฑ์ประเมินผลด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานของส่วนราชการตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นไป

· จัดเสวนาเพื่อนำตัวอย่างวิธีปฏิบัติการลดใช้พลังงานที่ได้ผลเป็นอย่างดีมาเผยแพร่ให้กับผู้แทนคณะทำงานฯ ได้รับทราบและนำกลับไปประยุกต์ใช้กับหน่วยงานของตน

· พร้อมนี้จะมีพิธีมอบรางวัลให้หน่วยงานราชการที่สามารถลดการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีเด่นประจำภูมิภาค เพื่อเชิดชู ยกย่อง และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ซึ่งในวันนี้จะมีพิธีมอบรางวัลแห่งความภาคภูมิใจให้กับหน่วยงานแม่หรือต้นสังกัดที่สามารถกำกับดูแลให้หน่วยงานย่อยภายใต้สังกัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ มีผลงานลดการใช้พลังงานจัดอยู่ในอันดับดีเยี่ยม จำนวนมากที่สุด ซึ่งปรากฏว่ามี 2 หน่วยงาน ที่มีผลงาน 4 หน่วยงาน เท่ากัน คือ กรมบัญชีกลาง และ กระทรวงสาธารณสุข

บัดนี้ได้เวลาอันสมควร ผมขอเรียนเชิญท่านปลัดกระทรวงพลังงานให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “รวมพลังข้าราชการไทย ลดใช้พลังงาน ประจำปี 2550” อย่างเป็นทางการ และมอบรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ รางวัลหน่วยงานที่กำกับดูแลหน่วยงานใต้สังกัดลดใช้พลังงานยอดเยี่ยม ให้กับผู้แทนจาก กรมบัญชีกลาง และ กระทรวงสาธารณสุข ด้วย ขอบพระคุณครับ